นันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) (WINMED) เผยว่า ผลดำเนินงานบริษัทฯช่วงครึ่งปีหลัง 2566 มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ทำให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมกลับมาปกติ ส่งผลให้กลุ่มผลิตภัณฑ์เดิมเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจจาก B2B มาเป็น B2C ผ่านทางช่องทางจำหน่ายออนไลน์-ออฟไลน์ และกลุ่มเครือข่ายพันธมิตร รวมถึงการนำสินค้าใหม่ๆ มาจำหน่าย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนยอดขายเติบโต
กลยุทธ์ครึ่งปีหลังบุกตลาดสินค้าใหม่ ชูกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขอนามัยระบบเจริญพันธุ์ หลังยอดผู้ป่วยกลับมาใช้บริการมากขึ้นในกลุ่มโรงพยาบาล และได้รับการสนับสนุนจากโครงการสปสช.ในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 40.54% พร้อมเร่งดันผลิตภัณฑ์ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง ซึ่งจะเป็นสินค้าเรือธง สร้างการรับรู้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค เจาะกลุ่ม B2C รวมถึงการมีสินค้าใหม่ที่อยู่ในระหว่างการขอขึ้นทะเบียนอีกหลายรายการ ซึ่งจะทยอยออกวางจำหน่ายในปี 2566 อย่างต่อเนื่อง
ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ธนาคารโลหิตและความปลอดภัยของโลหิต ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ผู้บริจาคโลหิตได้รับการอำนวยความสะดวกและกลับมาใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 33.10% และกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีของเซลล์และโมเลกุล มีการสั่งซื้อน้ำยาเพิ่มขึ้น เนื่องจากห้องปฏิบัติการโครงการวิจัยในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งของสถาบันนักเรียนแพทย์ต่างๆ เริ่มเปิดโครงการรักษาและสามารถเริ่มกระบวนการวิจัยได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ หรือ Mobile Blood Collection รองรับความต้องการของหน่วยงานทางการแพทย์ ที่มีความต้องการโลหิตสำหรับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบัน WINMED มีหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ จำนวน 2 หน่วย และมีแผนจะเพิ่มหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่เป็น 6 หน่วย สำหรับให้บริการในปี 2566 นี้ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่า ซึ่งจะสนับสนุนทำให้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับแผนดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2566 นอกจากขยายการลงทุนแล้ว บริษัทฯมีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโต จาก B2B มาเป็น B2C มากขึ้น ผ่านทางช่องทางจำหน่ายออนไลน์-ออฟไลน์ และกลุ่มเครือข่ายพันธมิตร รวมถึงการนำสินค้าใหม่ๆ มาจำหน่าย ที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนยอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผลักดันรายได้ในปีนี้เติบโต 30% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ ตามแผนงานที่วางไว้
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปี 2565 มีรายได้รวม 138.95 ล้านบาท และ มีกำไรขั้นต้น 60.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.54% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรขั้นต้น 54.59 ล้านบาท