นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่าบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจประกอบด้วย 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่
- ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายภายใต้แบรนด์บ้าน “ชวนชื่น”
- ธุรกิจอาคารคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าผ่านบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด โดยถือหุ้นในบริษัท บีเอฟทีแซด วังน้อย จำกัด (BFTZWN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในสัดส่วน 50% และลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล (PROSPECT REIT) สัดส่วน 8.61%
- ธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพและให้บริการด้านที่พักภายใต้บริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส จำกัด (RXW) มีสถานที่การให้บริการด้านสุขภาพ 2 แห่ง ได้แก่
- โครงการรักษ เวลเนส บางกระเจ้า ภายใต้แบรนด์ “Rakxa” รวมเนื้อที่ประมาณ 108 ไร่
- โครงการอาร์เอ็กซ์วี เวลเนส วิลเลจ ภายใต้แบรนด์ “RXV” เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่
ล่าสุด คณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ขออนุมัติปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทฯ จะขายหุ้นสามัญของ RXW ในจำนวน 13,799,998 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วน 100% ของหุ้นที่ได้จำหน่ายแล้วทั้งหมด ให้แก่บริษัท เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (FNS) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ มูลค่าประมาณ 276 ล้านบาท และจำหน่ายทรัพย์สินที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประกอบธุรกิจบริการด้านสุขภาพมูลค่าประมาณ 84 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 360 ล้านบาท พร้อมให้สิทธิการเช่าที่ดินและอาคารสำหรับธุรกิจการให้บริการด้านสุขภาพฯ เป็นเวลารวม 10 ปี มูลค่าการเช่ารวมประมาณ 1,770 ล้านบาท นอกจากนี้ FNS จะต้องให้กู้ยืมเงินแก่ RXW เพื่อนำมาคืนเงินกู้และดอกเบี้ยแก่บริษัทฯ
ขณะเดียวกันจะขออนุมัติซื้อหุ้นสามัญและหน่วยทรัสต์จาก FNS ประกอบด้วย
- หุ้นสามัญของ BFTZWN จำนวนทั้งสิ้น 24,999 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 100 บาท ในราคาหุ้นละ 2,000.08 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 50 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 50% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด
- หน่วยทรัสต์ PROSPECT REIT จำนวนทั้งสิ้น 83,212,061 หน่วยมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หน่วยละ 9.4697 บาท ในราคาหน่วยละ 9.3885 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 781 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22.19% ของหน่วยทรัสต์ที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด
ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจ จะส่งผลให้บริษัทฯ มีสัดส่วนถือหุ้น BFTZWN ผ่านบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จากเดิม 50% เพิ่มเป็น 100% และมีอำนาจตัดสินใจและสิทธิในการบริหารอย่างเบ็ดเสร็จ รวมถึงเพิ่มสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ PROSPECT REIT จาก 8.61% เพิ่มอีก 22.19% รวมเป็น 30.80% ของหน่วยทรัสต์ที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด ตลอดจนเพิ่มอำนาจในการตัดสินใจทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ที่เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องด้านเงินลงทุนให้กับบริษัทฯ เนื่องจากหน่วยทรัสต์ PROSPECT REIT มีสภาพคล่องในการซื้อขายที่ดี
สำหรับการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต ที่มุ่งเน้นให้มีการเติบโตจากธุรกิจอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานให้เช่าที่มีความเชี่ยวชาญเป็นธุรกิจหลัก เพราะ BFTZWN และ PROSPECT REIT เป็นบริษัทและกองทรัสต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาคารคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า ที่มีอัตราการเติบโตที่ดี และจะส่งผลต่อการเติบโตของผลการดำเนินงานที่มั่นคงในอนาคต
ทั้งนี้ธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่ามีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามทิศทางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่กำลังทยอยฟื้นตัวหนุนการเติบโตของภาคการค้าระหว่างประเทศ อีกทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นความต้องการบริโภคสินค้า ส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของภาคการผลิต ขณะที่การลงทุนในประเทศยังได้แรงหนุนจากการพัฒนาโครงการในนิคมอุตสาหกรรมโดยเฉพาะแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และความพร้อมของห่วงโซ่อุปทานในภาคการผลิตสำคัญของไทย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ และสิ่งทอ รวมถึงความต้องการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลก อาทิ การขยายฐานการผลิตรถยนต์ EV ของประเทศจีนมาไทย และการขยายฐานการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีมายังประเทศไทย เป็นต้น