Home » EURO นลท.สถาบันจองเฉียด 20% เข้าเทรด mai วาเลนไทน์นี้

EURO นลท.สถาบันจองเฉียด 20% เข้าเทรด mai วาเลนไทน์นี้

เควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดฯ mai 14 กุมภาพันธ์ นี้ หลังจากเสนอขายหุ้น IPO แก่นักลงทุนเมื่อวันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญธุรกิจ “Luxurious & High Quality Living” ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าระดับลักชัวรี่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย รวม 29 แบรนด์

นอกจากนี้ ให้บริการอย่างครบวงจรแบบวันสต็อปโซลูชั่น รวมถึงได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายครอบคลุมทุกพื้นที่ของการใช้ชีวิต เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับห้องน้ำ, วัสดุปูพื้น, โคมไฟและอุปกรณ์ควบคุมอัจฉริยะ เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์จากยุโรปโดยเฉพาะประเทศอิตาลี ซึ่งมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า B2B และ B2C ที่เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และลูกค้ารายย่อยระดับลักชัวรี่ได้อย่างครอบคลุม

แผนการขยายโชว์รูม

  1. โชว์รูม Euro Creations Flagship Gallery at Phuket เพื่อขยายตลาดสู่เมืองท่องเที่ยว คาดว่าจะเปิดบริการภายในไตรมาส 1 ปี 2567 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
  2. โชว์รูม Euro Creations Gallery at Thonglor Soi 5 คาดว่าจะเปิดบริการไตรมาส 2 ปี 2567 และ
  3. โชว์รูม Euro Creations Gallery at Thonglor Soi 1 คาดว่าจะเปิดบริการไตรมาส 4 ปี 2569 จะรองรับการขยายฐานลูกค้าจากระดับลักชัวรี่สู่ระดับพรีเมียม

โชว์รูมปัจจุบันมีอยู่ 5 แห่ง

  • Euro Creations Flagship Gallery at Thonglor
  • Natuzzi Italia at Siam Paragon
  • Euro Creations Gallery at Crystal Design Center
  • Technogym Flagship Showroom at Ekamai
  • Technogym Showroom at Central Embassy

แผนงานของบริษัทเพื่อสร้างการเติบโต

  1. การนำเสนอแบรนด์สินค้าระดับลักชัวรี่เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า รวมถึงสร้างความยั่งยืนแก่บริษัทฯ ด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายแก่แบรนด์สินค้าต่างๆ เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
  2. มุ่งเน้นบริหารจัดการสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำข้อมูลเชิงลึกจากระบบ SAP B1 ผสานกับประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและข้อมูลในอดีต มาวิเคราะห์และคาดการณ์ปริมาณสินค้าที่ต้องสั่งซื้อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
  3. ลงทุนด้านการพัฒนาบุคลากร โดยจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมพนักงานใหม่ด้วยตนเองทางออนไลน์ก่อนปฏิบัติงานจริง รวมถึงการเพิ่มทักษะและความรู้แก่พนักงานและผู้บริหารอย่างต่อเนื่อง
  4. ลงทุนและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน เช่น การพัฒนารูปแบบจัดเก็บฐานข้อมูลใน Cloud Database เป็นต้น นอกจากนี้ได้วางกลยุทธ์เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและขยายตลาดใหม่จากผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เจาะกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ รวมถึงมองโอกาสร่วมทุนหรือเข้าซื้อกิจการ

            ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานบริษัทฯ ปี 2563 – 2565 เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 776.59 ล้านบาท 829.49 ล้านบาท และ 1,047.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.81% และ 26.33% ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 105.49 ล้านบาท 121.66 ล้านบาท และ 135.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.33% และ 11.71% ตามลำดับ ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้จากการขายและบริการ 958.2 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 138.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% และ 44.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ โดยสัดส่วนรายได้มาจากลูกค้ารายย่อย (B2C) ประมาณ 70% และลูกค้าโครงการ (B2B) ประมาณ 30%

สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ที่ผ่านมาของ บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ จำนวนทั้งสิ้น 78 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 10.60 บาท ซึ่งกำหนดจากการสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบัน (Book Building) มีผลตอบรับที่ดีมาก โดยในการเสนอขายดังกล่าวมีนักลงทุนสถาบันจองซื้อมากกว่าจำนวนหุุ้นที่จัดสรรไว้ หรือมียอดจองซื้อคิดเป็นสัดส่วนถึง 19% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด

วัตถุประสงค์การระดมทุน

  1. ลงทุนก่อสร้างโชว์รูมใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ โชว์รูมทองหล่อ ซอย 1, ทองหล่อ ซอย 5 และภูเก็ต
  2. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อการก่อสร้างโชว์รูมใหม่ 3 แห่ง และคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นสำหรับเงินทุนหมุนเวียนกิจการ
  3. เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและการขยายธุรกิจ

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมดของ บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ ได้สมัครใจทำข้อตกลงไม่จำหน่ายหุ้นส่วนที่เหลือจากการติด Silence Period ตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มเติมในช่วงระยะเวลา 12 เดือนนับจากวันที่หุ้นของบริษัทฯ เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก เพื่อให้ความมั่นใจแก่นักลงทุน