Home » บอร์ด SAK เคาะตั้งบริษัทรุกโซลาร์รูฟท็อป วางเป้าปี 68 รายได้ 100 ลบ.

บอร์ด SAK เคาะตั้งบริษัทรุกโซลาร์รูฟท็อป วางเป้าปี 68 รายได้ 100 ลบ.

SAK เดินหน้าบุกธุรกิจโซลาร์ รูฟท็อป สำหรับที่อยู่อาศัย จัดตั้งบริษัทใหม่ ‘ศักดิ์สยาม โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่’ หรือ (Sak Solar) ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์มอบประสบการณ์เข้าถึงพลังงานสะอาดให้กับประชาชน เป้าหมายรายได้ปี 2568 กวาด 100 ล้านบาท

ศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บมจ. ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ได้มติอนุมัติให้บริษัทฯ จัดตั้งบริษัท ศักดิ์สยาม โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด หรือ (Sak-Solar) เพื่อดำเนินธุรกิจโซลาร์ รูฟท็อป สำหรับที่อยู่อาศัยและสินค้าอื่นที่เกี่ยวกับ Solar ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติยุติความร่วมมือทางธุรกิจการร่วมทุนภายใต้บริษัท ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัดที่มีทุนจดทะเบียน 64 ล้านบาท โดย SAK ถือหุ้น 49.22%และบริษัท ทีซี รีนิวอะเบิ้ล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ถือหุ้น 50.78%

การจัดตั้ง บริษัท ศักดิ์สยาม โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่’ หรือ (Sak- Solar) ใน จ. อุตรดิตถ์ จะเป็นผู้ดำเนินการให้บริการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์ รูฟท็อป อย่างครบวงจร ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อขยายการให้บริการติดตั้งระบบโซลาร์ รูฟท็อป สำหรับที่อยู่อาศัยอย่างรวดเร็วและหลากหลายในแบรนด์สินค้าเพื่อตอบสนองตรงตามความต้องการของลูกค้า ภายใต้การเชื่อมโยงให้บริการสินเชื่อของศักดิ์สยามลิสซิ่งที่พร้อมมอบประสบการณ์การให้สินเชื่อโชลาร์ รูฟท็อป อย่างไร้รอยต่อ เป็นการตอบโจทย์ความต้องการของภาคประชาชนเข้าถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ปัจจุบันศักดิ์สยามลิสซิ่งมีสาขาที่ให้บริการจำนวนทั้งหมด 1,029 สาขา ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จุดเด่นสินเชื่อโซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop) ของศักดิ์สยามลิสซิ่ง โซลาร์ รูฟท็อป

  • มีให้เลือกหลายขนาดเริ่มตั้งแต่ 3  กิโลวัตต์ (Kilowatt) ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 137,000 บาท
  • สามารถเลือกขนาดแผงโซลาร์ให้เหมาะสมกับการใช้ไฟฟ้าในแต่ละครัวเรือน ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์
  • ระยะเวลาผ่อนชำระนานถึง 96 เดือน (8 ปี)
  • นำเสนอโซลูชั่นที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ การติดตั้ง ไปจนถึงการบำรุงรักษา 

แนวโน้มตลาดการติดตั้งระบบโซลาร์ รูฟท็อป ในปี 2568 มีศักยภาพเติบโตอย่างก้าวกระโดด 22% โดยคาดการณ์จะมีมูลค่าตลาดรวม 6.7 หมื่นล้านบาท (อ้างอิงจาก ttb analytics)และยังมีศักยภาพเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สอดรับกับนโยบายของ SAK ที่มุ่งมั่นเป็นสินเชื่อเพื่อสังคม จึงส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ภายในครัวเรือน และลดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจในครัวเรือนสู่ความยั่งยืน และนับเป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนจะร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นสังคมพลังงานสะอาด โดยวางเป้าหมายการติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป สำหรับที่อยู่อาศัยปี 2568 จะสร้างรายได้ 100 ล้านบาท

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *