คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงการคลัง สนับสนุนคนไทยให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ด้วยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ใน “โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home” กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท
กมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้ ธอส. จัดทำ “โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home” กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ปลูกสร้าง และเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย
เงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
- ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
- อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เท่ากับ 3.00% ต่อปี
- ปีที่ 6-7 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี
- ปีที่ 8-9 เท่ากับ MRR-1.50% ต่อปี
- ปีที่ 10 จนถึงตลอดอายุสัญญา
- กรณีลูกค้ารายย่อยเท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี ลูกค้าสวัสดิการเท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันอยู่ที่ 6.90% ต่อปี)
- พิเศษ!! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900 – 2,300 บาท)
“โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home เป็นโครงการที่สานต่อจากโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (บ้านล้านหลัง) ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั้ง 3 ระยะ โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มีลูกค้าเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 89,180 บัญชี คิดเป็นวงเงินสินเชื่อสูงถึง 75,685 ล้านบาท
ธอส. จึงพร้อมเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มขึ้นต่อไป ด้วยการสนับสนุนสินเชื่อที่อยู่อาศัยในเงื่อนไขผ่อนปรนให้สามารถจัดหาที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองให้สอดคล้องกับคุณภาพชีวิตและความเหมาะสมของรายได้ โดยกลุ่มผู้มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 25,000 บาท พิจารณาเกณฑ์รายได้ ไม่เกิน 1 ใน 2 ของรายได้สุทธิต่อเดือน ทั้งนี้ ส่วนกลุ่มผู้มีรายได้ต่อเดือนเกิน 25,000 บาท เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด” นายกมลภพ กล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วม “โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home” ธนาคารเปิดให้รับรหัสเข้าร่วมโครงการได้พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
Mobile Application : GHB ALL GEN พร้อมสมัคร Line GHB Buddy และรับรหัส 6 หลัก เพื่อนำมาประกอบการยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 เป็นต้นไป และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าวหาก ธอส. ให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และเว็บไซต์ ghbank.co.th